ผ้าปิดปากและจมูก
( MASK )
ผ้า ปิดปากและจมูกมีหลายชนิดขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการกรองและการกระชับใบหน้า ใช้เพื่อป้องกันฝุ่นละอองลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการแพร่กระจายทาง อากาศการสัมผัสกับละอองเสมหะและป้องกันการกระเด็นของเลือดสารคัดหลั่งหรือ หนองที่ออกจากตัวผู้ป่วยขณะทำกิจกรรมการพยาบาลกรณีเชื้อโรคที่มีการแพร่ กระจายทางอากาศ เช่น วัณโรค ไข้หวัดนก เป็นต้น ควรใช้ผ้าปิดปากจมูกที่มีประสิทธิภาพในการกรองสูง เช่น N 95 mask ซึ่งผ่านการรับรองจากสถาบัน NIOSH (The Institute of Occupational) ว่ามีแผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคขนาดเล็ก ประมาณ 1 ไมครอนได้ถึง 95 % ส่วน N 100 หรือ Hyper mask สามารถป้องกันเชื้อโรคได้100 %
หลักสำคัญในการใช้ผ้าปิดปากและจมูก
1. ก่อนและหลังการใช้ผ้าปิดปากและจมูกควรล้างมือให้สะอาด
2. หาก เป็นชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง ให้หันขอบที่มีลวดไว้ด้านบน ควรสวมให้กระชับกับใบหน้า ไม่หลวมหรือคับจนเกินไป และกดขอบที่มีลวดแนบกับดั้งจมูก จะทำให้การใส่ผ้าปิดปากและจมูกกระชับมากขึ้น ไม่รู้สึกระคายเคืองบริเวณนัยน์ตาขณะให้การพยาบาลผู้ป่วย
3. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสผ้าปิดปากและจมูกขณะที่สวมใส่
4. ระยะ เวลาการใช้ผ้าปิดปากและจมูกจะต้องถอดทันทีภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมการพยาบาล และเมื่อเกิดความสกปรกหรือชื้น ไม่ควรแขวนผ้าปิดปากและจมูกไว้ที่คอ เพื่อรอการนำกลับมาใช้ใหม่เพราะเป็นการสัมผัสกับสิ่งปนเปื้อนเชื้อโรค ระยะเวลาการใช้ผ้าปิดปากและจมูกไม่ควรเกิน 20 – 30 นาที เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้
วิธีการใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก
ลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการสัมผัสกับฝอยละออง (droplet contact) และการแพร่กระจายทางอากาศ (airborne route) รวมทั้งการกระเด็นของสารคัดหลั่ง เลือดหรือหนองที่ออกจากตัวผู้ป่วย โดยศูนย์ควบคุมโรคประเทศสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำว่า ควรใส่ผ้าปิดปากและจมูกในกรณีต่อไปนี้
1. เมื่อ ให้การพยาบาลใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเท่านั้น เช่น มีการติดเชื้อหัดเยอรมัน คางทูม หรือเป็นโรคระบบทางเดินหายใจชนิดเฉียบพลัน ซึ่งโรคเหล่านี้มีโอกาสแพร่กระจายเชื้อที่มีฝอยละอองขนาดใหญ่จำพวกน้ำมูก น้ำลาย จากผู้ที่มีเชื้อก่อโรคไอ จาม ในระยะไม่เกิน
2. ทุกคนที่จะเข้าไปในห้องผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ เช่น วัณโรค ซึ่งมีการแพร่กระจายเชื้อ โดยฝอยละอองขนาดเล็ก ( droplet nuclei ) ซึ่ง ฝอยละอองขนาดเล็กนี้ จะยังคงลอยอยู่ในอากาศ และเคลื่อนที่ได้ในระยะไกล อาจจำเป็นต้องใส่ผ้าปิดปากและจมูกชนิดพิเศษ ที่กระชับกับใบหน้ามากขึ้น และมี่ประสิทธิภาพในการกรองสูงเช่นN 95 mask เป็นต้น
3. ป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อจากการสัมผัสฝอยละอองจากพยาบาลไปสู่บริเวณปลอดเชื้อ/แผล ปิด หรือป้องกันการกระเด็นของสารคัดหลั่งเลือดหรือหนองที่ออกจากตัวผู้ป่วย
![]() |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น